สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2565 มีวิธีอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2565 มีวิธีอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2565 มีวิธีอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2565 แบบฉบับเข้าใจง่าย พร้อมวิธีเตรียมตัวและเอกสารที่ต้องใช้ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คุณควรรู้

รถยนต์ทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนน จะมีอายุทะเบียนที่อนุญาตเพียง 1 ปี เท่านั้น ซึ่งเมื่อครบรอบจะต้องไปยื่นชำระค่าภาษีเป็นประจำปีทุก ๆ ปี หรือที่เรียกว่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งถือเป็นระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนและภาษีรถตามกฎหมายรถยนต์ ระบุไว้ว่า "รถทุกคันที่จดทะเบียนแล้ว ต้องเสียภาษีรถประจำปี เว้นแต่รถที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีประจำปี" ทีนี้เราจะมาดูกันว่า เมื่อถึงกำหนดที่จะต้องไปยื่นเสียภาษีรถยนต์ประจำปีนั้น จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนยังไง อีกทั้งมีกี่วิธีที่จะสามารถทำได้ ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ในการต่อภาษีรถยนต์ 2565 มาไว้ให้คุณแล้ว !

 

ต่อภาษีรถยนต์ 2565 มีขั้นตอนอย่างไร

สำหรับรถยนต์ที่จะไปต่อภาษีประจำปีนั้น สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือ พ.ร.บ.รถยนต์ โดยถ้าเป็นรถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถนำเอกสาร สำเนาทะเบียนรถ หรือเล่มจริง และสำเนาบัตรประชาชน ไปซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ที่ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ, ตัวแทนประกันภัย, เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา แต่หากรถมีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน โดยสามารถตรวจได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่ง ที่ได้การรับรองจากกรมการขนส่งทางบก รวมถึงที่กรมขนส่งทางบกทุกแห่ง ส่วนอัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์ ขึ้นอยู่กับประเภทรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน 600 บาท/ปี

 

รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง 1,100 บาท/ปี

 

รถยนต์โดยสารเกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง 2,050 บาท/ปี

 

รถยนต์โดยสารเกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง 3,200 บาท/ปี

 

รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง 3,740 บาท/ปี

 

รถยนต์ไฟฟ้า 600 บาท/ปี

 

หมายเหตุ : ราคาทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

 

ค่าตรวจสภาพรถ

รถยนต์ที่ต้องการต่อทะเบียน 2565 แล้วมีอายุในการจดทะเบียนเกิน 7 ปี ต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนทุกครั้ง โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ ตรอ. ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเจ้าของสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี โดยมีอัตราค่าตรวจสภาพ ดังนี้

 

รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท

 

รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท

 

สำหรับรถที่ไม่สามารถตรวจสภาพได้ที่ ตรอ. ของเอกชน จะเป็นรถจำพวก

 

รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้

 

รถที่เปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ (เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น)

 

รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ (เช่น ไม่ปรากฏตัวเลข ตัวเลขชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไข ขูด ลบ หรือลบเลือน จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ เป็นต้น)

 

รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไปไว้

 

รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า (เช่น กท-00001, กทจ-0001 เป็นต้น) ซึ่งรถดังกล่าวต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี

 

รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน

 

รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปี

 

โดยรถทั้งหมดนี้จะต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น

ต่อภาษีรถยนต์ 2565 ใช้เอกสารอะไรบ้าง

สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา

 

เอกสาร พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ

 

ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป )

 

เงินสำหรับอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522

 

หลังจากที่นำรถไปตรวจสภาพ (รถที่มีอายุเกิน 7 ปี) และมี พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นเสียภาษีประจำปีได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือจะเป็นช่องทางอื่น ๆ ที่เปิดให้เข้าไปยื่นเสียภาษีได้ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลากหลายช่องทาง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ต่อภาษีรถยนต์ 2565 ที่ไหนได้บ้าง

ต่อภาษีรถยนต์ 2565 ต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่ ?

สำหรับการเสียภาษีรถยนต์ประจำปี ทุก ๆ ปีเจ้าของรถจะต้องดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อทะเบียนรถ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนและภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2562 ซึ่งในหมวด 3 ข้อที่ 17 ระบุไว้ว่า รถทุกคันที่จดทะเบียนแล้ว ต้องเสียภาษีรถประจำปี เว้นแต่รถที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีประจำปี

 

ซึ่งอัตราค่าเสียภาษีรถยนต์นั้นจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยได้กำหนดอัตราค่าภาษี วิธีจัดเก็บ และวิธีคำนวณภาษีแตกต่างกันไป โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ : ค่าต่อภาษีรถยนต์ 2565

 

ต่อภาษีรถยนต์ช้า ค่าปรับเท่าไหร่

การต่อทะเบียนรถ หรือต่อภาษีรถยนต์ ที่หลายคนอาจเรียก ถ้าเราไม่เสียภาษีประจำปี แน่นอนว่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ของเราจะผิดกฎหมายทันที ซึ่งหากนำรถคันดังกล่าวมาวิ่งใช้งานบนท้องถนนแล้วเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะต้องเสียค่าปรับ

 

ซึ่งในการชำระภาษีรถประจำปีล่าช้าจะมีค่าปรับ แต่หากขาดการติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียน เช่น การโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถได้ เป็นต้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ : ทะเบียนรถขาดได้ไม่เกินกี่วัน ลืมเสียภาษี ไม่ต่อทะเบียนรถ เสียค่าปรับเท่าไร

 

จะเห็นได้ว่า “การยื่นต่อภาษีรถยนต์ประจำปี” ใช้เวลาไม่นาน และมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเท่านั้น รวมถึงในปัจจุบันนี้มีช่องทางในการยื่นเสียภาษีมากมายหลายรูปแบบ ทั้งยื่นภาษีออนไลน์ หรือยื่นผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งถือเป็นวิธีการที่สะดวกและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคลอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด 19 ที่ยังไม่นิ่งในทุกวันนี้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :  กรมการขนส่งทางบก

view